วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บทกลอนสอนกสิกรรม

ปัจจัยสีมีอาหารนั้นเป็นหนึ่ง

..ปัจจัยสี่ มีอาหาร นั้นเป็นหนึ่ง
เป็นที่พึ่ง ได้อาศัย คือคำข้าว
ให้พลัง อยู่มาได้ ตั้งแต่เยาว์
มนุษย์เรา จึงควรปลูก พืชเพื่อกิน

..ข้าวมันเผือก เลือกเฟ้น นำมาปลูก
ฉันเอาลูก เผือกเล็ก เท่าก้อนหิน
มาเพาะหน่อ ห่อหมกไว้ ในเนื้อดิน
ไม่นานสิ้น หนึ่งสัปดาห์ พางอกงาม

..กสิกรรม เพื่อยังชีพ ไม่รีบเร่ง
ไม่ข่มเหง ฝืนตน จนต้องหาม
ค่อยๆปลูก ลูกไม้ ได้ทุกยาม
จนคนถาม ทำไมงาม สวยทั้งปี

..กสิกรรม เพื่อยังชีพ ต้องเข้มข้น
ปลูกกันปน เปไป ในทุกที่
คัดเลือกสรร พันธุ์พืช ให้ดีๆ
หาวิธี ปลูกแซม แนมกันไป

..การเตรียมหลุม ปลูกเผือก ต้องเลือกเฟ้น
ควรจะเป็น ที่ชื้นแฉะ และแดดให้
เจาะหลุมขุด มุดดินลึก ไม่เท่าไร
เพื่อจะได้ หมักดินไว้ ให้เย็นลง

..ในรูหลุม นำเศษพืช ลงบรรจุ
หมักให้ผุ ให้เป็นปุ๋ย ย่อยเป็นผง
ไม่ช้านาน หนึ่งสัปดาห์ นำเผือกลง
ปลูกไว้คง นานเนิ่น ห้าหกเดือน

..โคนต้นกล้วย ช่วยกันปลูก มะละกอ
ไม่นานหนอ พอหกเดือน ได้ผลเกลื่อน
กสิกรรม เพื่อยังชีพ ขอติงเตือน
หมายให้เพื่อน ได้ลองปลูก พืชผักกิน

..ไม่มีใคร รับรอง คุณภาพ
อาหารบาป ใส่ยาพิษ มีทุกถิ่น
หากเพื่อน ไม่คิดปลูก เพื่ออยู่กิน
เมื่อใกล้สิ้น ลมหายใจ ใครช่วยเอย..




ขยะเอ๋ย

...มาวันนี้ ขอกล่าว เรื่องขยะ
มันดีนะ ขยะเปียก ที่เรียกขาน
มันมีมาก เยอะแยะ และชั่วกาล
มีทุกบ้าน บานเบอะ เยอะจริงๆ

...จุดมุ่งหมาย หลายอย่าง มีประโยชน์
หนึ่งได้โปรด แยกขยะ ก่อนเททิ้ง
ลดแรงงาน เทศบาล ได้มากจริง
อันเป็นสิ่ง สวยงาม ยามเมียงมอง

...สองนำไป ทำปุ๋ย ชีวภาพ
ท่านคงทราบ ปุ๋ยดี ไม่มีสอง
ไม่เคยทำ เรียนเอา เราต้องลอง
มันเป็นของ เรียนได้ ใช่เนิ่นนาน

...สามปุ๋ยนี้ เป็นมิตร สิ่งแวดล้อม
ไม่อ้อมค้อม พูดมาก อยากเล่าขาน
ใส่พืชผัก จักช่วย ดินทำงาน
ไม่ช้านาน ดินโปร่ง โล่งดีจริง

...สี่นั้นหรือ ก็คือ ช่วยเหลือโลก
ไม่ทุกข์โศรก โรคภัย ทั้งชายหญิง
งดสารพิษ เคมี ถ้าเอาจริง
ช่างดียิ่ง ผักอินทรีย์ คนต้องการ

...ขยะเปียก นั้นดี มีประโยชน์
ไม่มีโทษ ตามที่ ได้ไขขาน
ขอให้ท่าน อย่าช้า ช่วยจัดการ
อย่าช้านาน แยกขยะ ทำปุ๋ยดี

...ขอเพิ่มเติม เสริมกล่าว ขยายต่อ
ให้ท่านพอ ทำได้ ที่ว่านี้
หาถังหมัก สักลูก ถูกๆมี
หาซื้อที่ ข้างทาง ถามดูเอา

...เป็นถังหมัก บรรจุ หนึ่งร้อยลิตร
มีฝาปิด ปกป้อง ต้องถามเขา
เวลาซื้อ ให้ดู ประกอบเอา
ลองปิดเข้า กันได้ ค่อยซื้อมา

...นำถังหมัก เจาะรู ติดตั้งก๊อก
ต้องยาล็อก ขันเกลียว ให้แน่นหนา
ภายในถัง ติดตั้ง ไส้กรองมา
ให้ไปหา เศษท่อ พีวีซี

...นำเศษท่อ เจาะรู ดูให้พรุน
สักสี่หุน ก็ดี พอได้ที่
เวลาเจาะ วัดกะ ให้พอดี
ทำอย่างนี้ พอทำ ได้ไหมคุณ

...เมื่อทำเสร็จ นำไป ติดตั้งไว้
ที่อยู่ใกล้ โรงครัว เพื่อเกื้อหนุน
คุณแม่ครัว พ่อครัว โปรดการุณย์
ช่วยอุดหนุน ขยะสด ทิ้งลงไป

...เมื่อเริ่มต้น ใช้งาน รับขยะ
เราต้องจะ เติมเชื้อ ลงไปไว้
โปรโตซัว จาวปลวก นั่นเป็นไร
เราต้องใช้ ใส่ไป หนึ่งกระบวย

...หน้าที่ของ จาวปลวก ที่ว่านี้
ทำหน้าที่ ย่อยสลาย ให้ดูสวย
ย่อยให้เล็ก ละเอียด จนอ่อนย้วย
เป็นเรื่องกล้วย ง่ายนัก ให้ลองทำ

...หมักขยะ เปียกสด ไม่กลัวอด
มันช่วยลด ใช้จ่าย ทุกเช้าค่ำ
ไม่ต้องซื้อ น้ำตาล ประกอบทำ
ขอเพียงย้ำ เศษข้าว ต้องใส่ไป

...ขณะหมัก ขยะเปียก จะปรากฏ
มีทั้งหมด จุลินทรีย์ ที่ต้องใช้
แลคโตบา ซิลลัส ตัวเก่งไง
เราจะได้ ใช้มัน ช่วยทำงาน

...เมื่อสามวัน ผ่านไป เป็นอย่างน้อย
เราจึงค่อย ย้ายขยะ ไปสืบสาน
ขยะเปียก เป็นกรด ไปใช้งาน
ไม่ดื้อด้าน กัดดิน และอินทรีย์

...ดินอินทรีย์ วัตถุ ผุไปหมด
เพราะน้ำกรด ชีวภาพ ขยะนี้
ทำปุ๋ยหมัก ห่อหมก ดินจะดี
เพราะเรามี ตัวช่วย สบายแรง

...ก่อนจะจบ ขอต่อ อีกสักหน่อย
เวลาปล่อย ไขขยะ ขอแถลง
อย่าเอาหมด ให้คงไว้ ขอชี้แจง
เพื่อแสดง ตัวเชื้อ อีกต่อไป

...เชื้อที่ค้าง ยังคง มีในถัง
ไม่หมดตังค์ เติมขยะ ทุกวันให้
ย่อยขยะ ลดภาระ ทุกวันไป
นำไปใช้ ทำปุ๋ย ได้ฟรีๆ

...แต่ละวัน ตรวจดู ถังขยะ
อันนี้จะ ต้องดู ให้ถ้วนถี่
ขยะใหม่ ใส่มา ถ้ามากมี
ให้กดที่ ข้างบน จมลงไป

...หากกดยาก ไม่จม มีวิธี
ให้ไขที่ วาล์วก๊อก จะบอกให้
รองขยะ ย่อยแล้ว มาทันใด
แล้วเทใส่ ไหลกลับ ทับไปคืน

...ขยะเปียก ฉันเห็น เป็นของเล่น
ท่านเล่าเห็น เหมือนฉัน หรือฝืดฝืน
สนุกนัก เล่นขยะ ทุกวันคืน
ไม่ต้องฝืน จิตใจ ดีมากเลย

...ตามที่เล่า มานี้ เข้าใจไหม
ถ้าทำได้ รีบทำ อย่าเมินเฉย
ประหยัดนัก ไม่จ่าย สักบาทเลย
ขยะเอ๋ย มีฟรี ทุกบ้านเอย..



อุปกรณ์ และสว่านเจาะรูทำไส้กรองถังหมักขยะ

กองปุ๋ยดินหมักไม่ต้องกลับกองปุ๋ย



ย้อนอดีต 1 ไร่แก้จน


...จากวันแรก ความฝัน ก็มาถึง
เป็นวันทึ่ง หนึ่งไร่ ใช่เพ้อฝัน
ย้อนอดีต ไม่นาน เหมือนวานวัน
อันตัวฉัน ขอกล่าว เล่าตำนาน

...กลางเมษา ห้าเจ็ด เม็ดฝนแห้ง
มันช่างแล้ง และร้อน ขอไขขาน
ใช้ปัญญา คิดชอบ มาจัดการ
ไม่เนิ่นนาน เห็นผล คนเมียงมอง

...ระบบน้ำ ต้องทำ เป็นอย่างแรก
ขุดร่องแยก วางท่อ ไปซื้อของ
อุปกรณ์ จัดหา ประกอบลอง
ฉีดละออง พ่นน้ำ ปุ๋ยอินทรีย์

...ผ่านพ้นไป เจ็ดวัน หลังฉีดพ่น
ดินสีหม่น ขึ้นรา สีเขียวปี๋
ปลุกชีวิต ดินตาย คืนชีวี
เป็นเช่นนี้ พร้อมปลูก พืชลงดิน

...ขุดหลุมดิน ไม่ลึก ประมาณศอก
ความกว้างบอก ศอกหนึ่ง ไม่มีหิน
ขุดข้างหลัก จ่ายน้ำ ให้พืชกิน
หลุมหมักดิน รองก้น เคล้าคนกัน

...เตรียมหลุมเสร็จ เจ็ดวัน หมักดินไว้
รอดินให้ คลายร้อน เย็นลงนั่น
เอาหน่อกล้วย น้ำว้า อย่าช้าพลัน
พลิกแผลหัน แลหน่อ ก่อนปลูกลง

...ระยะแรก กล้วยเล็ก แลดูห่าง
มีที่ว่าง ปลูกแซม ตามประสงค์
ทั้งฟักทอง ถั่วแตง นำปลูกลง
ที่โคนตรง กอกล้วย ช่วยคลุมดิน

...สองเดือนผ่าน ไม่นาน ได้พืชผัก
ทั้งยอดฟัก ถั่วแตง สมถวิล
เก็บเข้าครัว เพื่อปรุง ได้อยู่กิน
เป็นทั้งสิ้น อาหาร ไร้เคมี

...พอครบรอบ พืชผัก สิ้นอายุ
กล้วยบรรลุ ออกปลี เป็นหลายหวี
ที่โคนกล้วย พืชแซม ก็ยังมี
ละกอดี แขกนวล ปลูกแซมไป

...มาบัดนี้ มีพืช ขึ้นหลายหลาก
ผ่านพ้นจาก หกเดือน เป็นไฉน
ภาพชีวิต คิดดู บ้างเป็นไร
คนจนไซร้ ควรคิด ตรองดูเอย..









การจัดการน้ำ

...โอ้ว่าน้ำ นี้มัน สำคัญนัก
ต้องจัดหนัก ใส่ใจ เป็นอย่างยิ่ง
ถ้าขาดน้ำ ชีวี ไม่ไหวติง
ต้องแน่นิ่ง มอดม้วย มรณา

...กสิกรรม สำคัญ ต้องมีน้ำ
ต้องขอย้ำ จำเป็น เป็นหนักหนา
บริหาร จัดการ ตามตำรา
ต้องจัดหา แหล่งน้ำ ให้พอเพียง

...หากไม่มี แหล่งน้ำ บนผิวดิน
ก็ไม่สิ้น ปัญญา ไม่ต้องเถียง
น้ำบาดาล มีมาก และพอเพียง
นำมาเลี้ยง พืชผัก ให้เรากิน

...เจาะบาดาล นำน้ำ มาใส่อ่าง
บรรจงสร้าง ขึ้นมา สมถวิล
ทำน้ำพุ น้ำวน คนให้กิน
ปุ๋ยจุลิน ทรีย์น้ำ ผสมไป

...ตั้งโปรแกรม เวลา ตามกำหนด
เพื่อให้รด พืชผัก เป็นไฉน
กำหนดโซน ให้น้ำ ขอบอกไง
ไม่ทันไร พืชผัก งอกงามดี

...วางระบบ ให้น้ำ สำคัญนัก
ถ้าใจรัก ปลูกกิน ทุกถิ่นที่
เมื่อเพื่อนพ้อง พี่น้อง ทราบวิธี
ทำตามนี้ พืชงาม ดีจริงเอย..

...โอ้ปีนี้ หน้าแล้ง ของเมืองไทย
ต้องทำใจ ใฝ่หา น้ำมานั่น
เลือกที่เหมาะ เจาะน้ำ บาดาลกัน
สวนของฉัน ใช้น้ำ ที่เจาะเอง

...น้ำบาดาล นำมา ใส่ในอ่าง
บรรจงสร้าง ด้วยมือ ใช่ข่มเหง
ถ้าใจรัก เสียอย่าง ไม่หวั่นเกรง
ต้องทำเอง ดังใจ ที่หมายปอง

...ขอให้คิด สักนิด นะพี่น้อง
เราไม่ต้อง รอรัฐ ตอบสนอง
เพราะรัฐนั้น งานมาก ไม่มามอง
ถึงจะร้อง เรียนไป ไม่ใยดี

...ตนพึ่งตน เตือนตน นั้นไม่ยาก
ถ้าไม่อยาก ยากจน ควรหลีกหนี
หมั่นพากเพียร เรียนรู้ กรรมวิธี
หลากหลายมี ให้เลือก เรียนรู้เอา

...ผู้คนไทย เรานี้ แสนฉลาด
ไม่ขี้ขลาด ปราดเรื่อง ไม่โง่เขลา
ขอให้เพื่อน พี่น้อง พ้องพวกเรา
หนักก็เอา เบาสู้ อย่าอู้กัน

...ความคิดดี นั้นควร ต้องมาก่อน
พ่อหลวงสอน วอนไว้ ให้ขยัน
ความพอเพียง อยู่ง่าย ประกอบกัน
ไม่ช้าพลัน มีสุข ทุกคนเอย...


ปุ๋ยดินอัดยัดใส่รู

...พลันหันเห็น แผ่นป้าย ทะเบียนรถ
ช่างงามงด ด้วยเลขสวย ช่วยแถลง
จิตจดจ่อ พอเข้าใจ จึงแสดง
รหัสแฝง ซ่อนคำตอบ จึงบอกมา

...1221 หรือคือ ทะเบียนรถ
เป็นทั้งหมด สูตรปุ๋ยอัด ยัดใส่หนา
ในรูหลุม ให้ดินชุ่ม พืชงามตา
นี่แหละหนา รักจะปลูก ถูกไหมเรียม

...อันปุ๋ยอัด ยัดใส่รู เมนูนี้
เมนูที่ ดีเลิศ เกิดผลเยี่ยม
ปลูกพืชผัก รักกินผัก เราต้องเตรียม
อาหารเยี่ยม ให้พืชผัก ที่เรากิน

...ดินที่เหมาะ เจาะดินร่วน ให้เป็นรู
ลึกคืบดู รูให้กลม ผสมหิน
ภูเขาไฟ ให้แร่ธาตุ แก่พืชกิน
ผสมดิน ตามส่วนสัด ที่จัดมา

...หนึ่งส่วนหิน ภูเขาไฟ ที่ว่าไว้
สองส่วนให้ ใส่อินทรีย์ วัตถุหนา
อีกสองส่วน ดินที่ร่วน สลับมา
Biochar อีกหนึ่งส่วน ต้องใส่ไป

...เมื่อคลุกเคล้า เข้าส่วน ผสมเสร็จ
ไม่มีเคล็ด อะไรมาก หากสงสัย
จำลายแทง เลขรหัส ให้ขึ้นใจ
1221ไง ให้ต้องทำ ตามตำรา

...นำสัดส่วน ที่จัดไว้ ยัดใส่รู
รดพรั่งพรู ด้วยน้ำหมัก ต้องจัดหา
สูตรจาวปลวก ไม่มีบวก สิ้นเงินตรา
ต้องเตรียมหา พาจัดไว้ ใช้ดีจริง

...เมื่อเตรียมหลุม ปุ๋ยอัดรู ดูเบ็ดเสร็จ
หมักดินเจ็ด วันไว้ให้ เป็นดียิ่ง
ผ่านเจ็ดวัน อยากกินไร ไม่ประวิง
ปลูกในสิ่ง ที่อยากกิน สบายเอย..






ฮอร์โมนหน่อกล้วย

...เช้าวันนี้ ฉันมี งานที่ชอบ
เป็นคำตอบ ด้วยภาพ จักแถลง
ทำฮอร์โมน หน่อกล้วย ใคร่แสดง
เป็นสิ่งแฝง เคล็ดลับ พืชงามตา

...ตื่นเช้าตรู่ ก่อนแสง อาทิตย์โผล่
ใช่คุยโว ตัวเรา รีบเข้าหา
มีดและถัง ไปตัด หน่อกล้วยมา
แล้วรีบคว้า สากตำ ตะบันดัง

...เมื่อตำบุบ ยุบเละ ป่นละเอียด
เอามือเบียด ล้วงจับ ใส่ลงถัง
หมักด้วยน้ำ จาวปลวก หยวกกล้วยพัง
สามวันหลัง จากนั้น เป็นฮอร์โมน

...นำฮอร์โมน น้ำหยวก บวกน้ำเปล่า
ขอบอกเล่า หนึ่งต่อพัน พืชไม่โสน
รดพืชผัก ทุกวัน แบบอ่อนโยน
ค่อยค่อยโดน ฮอร์โมน พืชงามเอย..







ง้วนดินจาวปลวก

...โอ้ง้วนดิน นี้หนา มีปรากฏ
อันเป็นบท สนทนา พาฉงน
โมคคัลลา เถระ ถามชอบกล
ณ บัดดล ขอพลิก ปฐพี

...อันตำนาน ฉันกล่าว เบื้องต้นนี้
ปรากฏมี บันทึก เป็นสักขี
ไตรปิฎก เล่มหนึ่ง และยังมี
ปรากฏที่ อีกเล่ม สิบเอ็ดมา

...ความมีว่า โมคคัลลา เข้าทูลเฝ้า
พุทธเจ้า หม่อมฉัน มีปัญหา
บิณฑบาตร ขาดเขิน เกินพรรณา
ทั้งธัญญา อาหาร มันฝืดเคือง

...ขอพระองค์ ได้โปรด อนุญาต
ให้ข้าบาท พลิกผืน แผ่นดินเนื่อง
ชาวประชา หากิน มันฝืดเคือง
เพราะจากเรื่อง ผืนดิน ไม่สมบูรณ์

...พุทธองค์ เมตตา สรรพสัตว์
จึงได้ตรัส ไปว่า สัตว์ต้องสูญ
สิ้นชีวิต คิดดู ให้อาดูร
สัตว์ต้องสูญ สิ้นชีพ คิดอย่างไร

...โมคคัลลา พาตอบ ชอบเห็นด้วย
พอจะช่วย มือจับ สัตว์มาใส่
มืออีกข้าง พักไว้ อย่างอุ่นใจ
พลันทันใด อีกมือ พลิกแผ่นดิน

...ตามตำนาน ฉันกล่าว เล่ามานี้
ฉันมองที่ ลายแทง เป็นทรัพย์สิน
หากเพื่อนพ้อง พี่น้อง อยากทำกิน
บนผืนดิน ต้องหา ง้วนดินมา

...อันง้วนดิน นั้นหรือ คือชีวะ
ตัวเล็กนะ นิดเดียว อย่ามองหา
ไม่สามารถ มองเห็น ด้วยสายตา
จึงต้องพา ส่องกล้อง จ้องมองไป

...อันที่อยู่ ง้วนดิน มันอยู่ที่
ไร้เคมี สารพิษ ไม่มาใกล้
เพราะฉะนั้น ถ้าคิด ปลูกอะไร
ก็อย่าให้ เคมี มากล้ำกราย

...จุลินทรีย์ จาวปลวก ขอนำกล่าว
เป็นเรื่องเล่า กล่าวขาน มานานหลาย
เป็นง้วนดิน คู่โลก โชคสบาย
เป็นที่หมาย พอเพียง เลี้ยงเราเอย..




ของกล้วยๆ ใครๆก็ปลูกได้

..การปลูกกล้วย ก็ง่ายๆ เหมือนกินกล้วย
เพียงแต่ช่วย คอยให้น้ำ และให้ปุ๋ย
ใช่ว่ายาก ไม่ลำบาก จึงอยากคุย
ต้องให้ปุ๋ย กับทางดิน กินน้ำตาม

...ปุ๋ยทางดิน ต้องหมักดิน มาเทินทับ
ถ้าให้นับ เดือนละหน ผู้คนถาม
ปุ๋ยทางน้ำ ผสมน้ำ รดแล้วงาม
นามหน่อนั้น ให้เอาออก จึงบอกมา

...การหมักดิน ให้พืชกิน จะขอบอก
ไม่ยากหรอก หากขยัน ทำกันหนา
หาล้อยาง รถยนต์ ที่ทิ้งมา
คัตเตอร์ผ่า กรีดแก้ม ยางออกไป

...ถากหญ้าดิน อินทรีย์ มาบรรจุ
เพื่อให้ผุ เป็นปุ๋ย ทำไฉน
ราดด้วยน้ำ ขยะเปียก หมักแล้วไง
ดินร่วนใส่ เทินทับ สลับกัน

...บรรจุเสร็จ ดินทับ ผ้าดำปิด
เพื่อให้มิด หมักปุ๋ย ได้ตามฝัน
ผ่านพ้นไป ไม่นาน สักสิบวัน
ก็เป็นอัน สำเร็จ ได้ปุ๋ยดี

...อันปุ๋ยน้ำ ฮอร์โมน คือน้ำแม่
ก็ได้แก่ หมักหน่อกล้วย ช่วยเขียวปี๋
ผสมน้ำ รดพืช ช่างงามดี
ซึ่งเป็นที่ ต้องการ งานปลูกกิน

...วิธีทำ ฮอร์โมน จากหน่อกล้วย
ซึ่งจะช่วย รดพืช ใช่งานหิน
ทำง่ายมาก มีดตัด หน่อติดดิน
แต่เช้าสิ้น ก่อนแสง ตะวันมา

...นำหน่อกล้วย ที่ตัด เอามาทุบ
ให้พอบุบ บู้บี้ ละเอียดหนา
ใส่ลงถัง เพื่อหมัก ตามตำรา
เทตามมา ด้วยน้ำหมัก สักกระบวย

...นำน้ำเปล่า ใส่ลงถัง ให้มากพอ
ฝ่ามือหนอ ว่างไว้ เพื่อให้ช่วย
มีอากาศ ถ่ายเท เพื่ออำนวย
สามวันช่วย ให้ได้ ฮอร์โมนเอย..



การดูแลศัตรูกล้วย

...เช้าวันนี้ ฉันเพลิน เดินชมกล้วย
เพราะต้องช่วย ตรวจดู ศัตรูพืช
ปลายใบตอง ย้อยลง กระโดดยึด
มีดตัดปึ๊ด ขาดปุ๊ด หลุดออกมา

...หากปล่อยใบ ให้ย้อย ห้อยตุ่งติ่ง
จะเป็นสิ่ง ปกปิด ศัตรูหนา
เป็นที่อยู่ หนอนกอ ที่ลับตา
จึงต้องหา มีดตัด ปลายใบลง

...ถ้าตัดใบ ที่ปลาย ออกบ้างแล้ว
เมื่อลมแผ้ว โพยพัด ต้องประสงค์
ก้านใบกล้วย ติดต้น ไม่หักลง
จึงยังคง แข็งแรง แมลงไม่มี

...ยังต้องจ้อง มองดู โคนกอนั่น
เอามีดหั่น หน่อกล้วย แมลงหนี
ต้องแสงแดด แผดเผา โคนจะดี
เมื่อไม่มี ที่ซ่อน แมลงไม่มา

...เมื่อเดินดู โดยรอบ ตัดแต่งแล้ว
ช่างผ่องแผ้ว ปลอดโปร่ง โล่งจริงหนา
ไม่มีใบ ห้อยรก ขวางลูกตา
ไม่นำพา ตายพราย หายกังวล

...มองเหลียวหลัง ลอดช่อง แลเห็นบ้าน
สวนกับบ้าน ติดกัน คั่นด้วยถนน
ย้อนรำลึก นึกถึง งานผ่านพ้น
ยังเป็นคน วุ่นวาย เจ้านายมี

...อดีตนั้น ฉันเป็น ครูบ้านนอก
ต้องขอบอก ยุ่งนัก หงุดหวิดที่
ต้องเดินทาง ไปกลับ ทุกเช้ามี
ภารกิจที่ ต้องทำ เยอะแยะเลย

...มาวันนี้ บ้านฉัน อยู่ติดสวน
ไม่ต้องด่วน เร่งรีบ แค่เดินเฉย
สี่ห้าก้าว ก็ถึง แสนเสบย
ไม่มีเลย ไฟแดง แม้แห่งเดียว

...จิตสงบ ไม่มี ต้องเกรี้ยวกราด
ไม่อาฆาต มาดร้าย ไม่ฉุนเฉียว
ไม่หนักใจ กังวล แม้นิดเดียว
พักประเดี๋ยว ก็ได้ ไม่มีนาย

...กสิกรรม เป็นงาน ที่ล้ำเลิศ
อันก่อเกิด อาหาร ปัจจัยหมาย
เป็นที่หนึ่ง นั้นคือ อาหารกาย
ผลสุดท้าย ทุกคน ต้องกินกัน

...พุทธองค์ ทรงตรัส เอาไว้ว่า
อันชาวนา มีคุณ ที่สร้างสรร
สร้างอาหาร การกิน ทุกวี่วัน
ชาวนานั้น มีบุญ คุณมากเอย..






มะละกอกระแดะ


...มะละกอ นี้หนอ ช่างกระแดะ
ต้นเล็กแคระ นิดเดียว แต่ลูกดก
ปุ๋ยอาหาร ให้ไป ไม่เคยงก
ปุ๋ยห่อหมก ดินดี มีให้กิน

...ปุ๋ยห่อหมก ดินดี ฉันว่านี้
หมักไว้ที่ ในสวน ควรมีศิลป์
นำล้อยาง ปาดแก้ม แล้วใส่ดิน
สลับอิน ทรีย์วัตถุ ผุแล้วงาม

...นำดินใส่ ในล้อ ขออีกนิด
อย่าลืมปิด ผ้ายาง ไม่ต้องถาม
ก่อนคลุมผ้า อย่าลืม ให้ปุ๋ยงาม
ต้องราดน้ำ ขยะเปียก จุลินทรีย์

...หมักไว้นาน สิบวัน พลันเปิดออก
ต้องขอบอก ตักใส่ ต้นไม้นี่
เมื่อพ่นน้ำ เป็นฝอย ละอองดี
ปุ๋ยอินทรีย์ ชะล้าง ให้พืชกิน

...ปลูกละกอ ขอแซม ในป่ากล้วย
มันจะช่วย คุ้มโรค ไวรัสสิ้น
อันไวรัส วงแหวน ที่ชอบกิน
หมดภัยสิ้น พาหะ เพลี้ยแป้งมา

...ในป่ากล้วย ควรปลูก ให้หลายหลาก
ให้มีมาก พืชพรรณ ที่สรรหา
ทั้งพริกเผือก เลือกเฟ้น ให้นำมา
พืชธัญญา อาหาร สำราญเอย..





ทำคลอดกล้วย

...เมื่อปลีดอก ออกมา เป็นหลายหวี
เพิ่มทวี น้ำหนัก กลัวหักยิ่ง
ต้องทำคลอด ลูกกล้วย ช่วยให้พิง
อันเป็นสิ่ง พึงทำ ตามตำรา

...ต้องรีบหา ไม้ค้ำ ทำเป็นง่าม
ประกอบตาม สองส่วน ง่ายจริงหนา
ส่วนที่หนึ่ง ทำปลอก เพื่อสวมมา
รูปหน้าตา ช่างเหมือน เครื่องหมายคูณ

...การทำปลอก ขอบอก เอาไม้ไผ่
ยาวเท่าไร เท่าศอก พอใจอุ่น
ให้สวมครอบ ปลายไม้ ไว้ค้ำจุน
ยันใต้หนุน คอเครือ ช่วยได้ดี

...ส่วนที่สอง ไม้ค้ำ นำมาใช้
ยาวเท่าไร ให้วัด ความสูงที่
จากพื้นดิน ถึงเครือ คอพอดี
กำหนดที่ สองส่วน ต้องจำเอา

...ก่อนจะตัด ไม้ค้ำ นำมาใช้
ต้องเผื่อไว้ ครึ่งส่วน ไม่โฉดเขลา
เมื่อค้ำยัน คอเครือ จะต้องเอา
โคนไม้เรา กางออก จึงบอกมา

...เมื่อทำเสร็จ สองส่วน ประกอบใช้
ส่วนหนึ่งให้ ครอบใส่ ปลายไม้หนา
นำชูขึ้น ค้ำใต้ คอเครือพา
อีกปลายหา สอดรู ที่คู่กัน

...ขยับขา หาที่ ให้มั่นเหมาะ
ทั้งนี้เพราะ กันโยก ไว้คงมั่น
เพียงเท่านี้ พี่น้อง คงจำกัน
เพื่อคงมั่น ใจได้ ไม่ล้มเอย..








กล้วยเครือสามและเครือสี่


...กล้วยน้ำว้า เครือสาม และเครือสี่
ก็เริ่มมี ปลีดอก ออกให้เห็น
เช้าวันนี้ ที่สวน รู้สึกเย็น
คงจะเป็น เช่นนี้ อีกต่อไป

...สายขึ้นมา อากาศ ช่างปลอดโปร่ง
ท้องฟ้าโล่ง ไร้เมฆ หายไปไหน
แสงอาทิตย์ เจิดจ้า ท้าหัวใจ
ไม่เป็นไร พอทน คนทำกิน

...เมื่อวานนี้ มีเพื่อน มาเยือนสวน
จึงเชิญชวน เดินดู ในทุกถิ่น
ทุกซอกมุม ในสวน มีพืชกิน
ชมได้ยิน งามเหลือ เหลือเชื่อเอย..


กล้วยเครือที่สอง

...ดอกปลีกล้วย เครือสอง ต้องตามติด
กระชั้นชิด เครือแรก แปลกจริงหนอ
โอ้ว่าฉัน เพลินดู ช่างลออ
งามชูช่อ ดอกกล้วย ช่างสวยจริง

...ดอกปลีกล้วย ทำสาว ทั้งยาวใหญ่
เป็นเพราะได้ ตัดหน่อ จึงใหญ่ยิ่ง
อีกทั้งยัง ให้น้ำ มากพอจริง
ตัดหน่อทิ้ง  ทำปุ๋ย ช่วยได้เอย..

กล้วยเครือแรก

...ดอกปลีกล้วย เครือแรก ก็ออกสุด
จึงตัดปุ๊ด ขาดปั๊ด ปลีดอกเสีย
สิบเอ็ดหวี ดีจัง นับแล้วเคลียร์
เอาออกเสีย ปลีดอก เพื่อผลโต

...นับจากนี้ ต่อไป อีกสี่เดือน
ผลกล้วยเกลื่อน เต็มสวน มากอักโข
กล้วยน้ำว้า แปรรูป ใช่คุยโว
แพคใส่โหล กล้วยตาก มากจริงเอย...

...เจ็ดวัน ผ่านพ้น ออกดอกปลี
นับได้ สามหวี มีเป็นผล
หันเครือ ไปทิศ กำหนดยล
ปลูกยล แลแผล ที่หน่อนา

...แผลหน่อ ต้องตรง ข้ามที่ผล
เมื่อยล เห็นผล งามนักหนา
เครือตก ทุกต้น จะงามตา
แลหา แผลหน่อ ก่อนปลูก..เอย..


..ปลีดอกแรก แยกแย้ม ให้ยลโฉม
ทิพย์ชะโลม คลายเหนื่อย ที่เมื่อยล้า
เหมือนเทพไท้ นางอับสร ที่บินมา
จำนรรจา ช่างงามเหลือ เมื่อได้ยล

..กล้วยน้ำว้า มะลิอ่อง ช่างผ่องผุด
งามประดุจ เทพธิดา เวหาหน
ตั้งแต่ปลูก กลางเมษา เพิ่งได้ยล
เดี๋ยวเห็นผล คนมามอง ต้องถูกใจ

..มาบัดนี้ มีไม้ไว้ ใช้ทำคลอด
ไม้ไผ่สอด ใต้ดอกปลี มีรับไหว
น้ำหนักมาก เกือบร้อยโล ไม่โม้ไป
ทำง่ามไง เหมือนกาแล แลดูดี

..กสิกรรม ไร้สารพิษ อย่าคิดมาก
ไม่ลำบาก หากปรับเปลี่ยน เรียนวิถี
รู้สำนึก บาปบุญ คุณมากมี
ช่วยชีวี สังคมนี้ ร่มเย็นเอย..


อาหาร..คือ..ปรมัตถ์

...โอ้คนเรา นี้หนอ ก็เท่านี้
ก็เท่าที่ ฉันเห็น เป็นไฉน
ฉันมองคน ลึกซึ้ง กว่าใครใคร
เป็นไฉน ใคร่ยล คนคือใคร ?

...ฉันมองคน ต่างยุ่ง มุ่งหาทรัพย์
ได้แล้วนับ สะสม เอาไปไหน
เมื่อตายแล้ว เอาไป ได้อย่างไร
ฉันแปลกใจ ทำไม ไม่รู้พอ

...โอ้คนหนอ อยากขอ เสนอคิด
จะเห็นผิด หรือถูก ไม่ว่าหนอ
ปรมัตถ์ สัจจะ ต้องรู้พอ
สมมุติหนอ เงินทอง ของนอกกาย

...อันอาชีพ ฉันว่า มันย้อนแย้ง
อยากแสดง แนวคิด ที่ฉันหมาย
อาชีพนั้น ควรยึด อาหารกาย
เป็นที่หมาย สำคัญ ฉันคิดดู

...อาหารกาย นั้นคือ ปรมัตถ์
เป็นสมบัติ ล้ำค่า อันเลิศหรู
Perfection สัมบูรณ์ คุณคิดดู
เงินทองหรู เห็นเป็น เช่นมายา

...แต่คนเรา ยุคนี้ กลับเห็นผิด
ได้แต่คิด หาเงิน กันนักหนา
เงินตรานั้น ก็แค่ สมมุติมา
กำหนดค่า ให้หลง ไปกับเงิน

...ได้เงินมา ต้องพา ไปซื้อแลก
มันน่าแปลก นักหนา มานานเนิ่น
มีเงินมาก รวยมาก ทำเขื่องเกิน
โอ้หนอเงิน เงินเงิน คนอยากมี

...อันสัมมา อาชีพ ของคนนี้
ก็ควรมี ที่ดิน กันสักที่
คนละนิด เล็กน้อย ก็ยังดี
เพื่อเป็นที่ ปลูกกิน กันเรื่อยไป

...ถ้าเอาเงิน ที่มี ไปจับจ่าย
เป็นความง่าย ดีหนอ ขอขานไข
ซื้ออาหาร เคมี ทานเข้าไป
เร่งเร็วให้ มอดม้วย มรณา

...ทั้งมะเร็ง ความดัน เบาหวานเกิด
ได้โปรดเถิด หยุดคิด หน่อยเถอะหนา
อันเงินตรา นั้นหรือ คือมายา
ข้าวถั่วงา นั้นหรือ คือของจริง

...อันคนเรา วันนี้ เดินย้อนศร
เพาะปลูกก่อน กินอิ่ม เป็นดียิ่ง
อันเงินทอง เป็นรอง ตรองให้จริง
อย่าได้วิ่ง ไขว่คว้า หาเงินเลย

...ถ้าปลูกอยู่ ปลูกกิน เป็นเบื้องแรก
เงินที่แลก อาหาร ก็เมินเฉย
เพราะมีกิน อิ่มท้อง แสนเสบย
อย่าละเลย ควรคิด ตรองดูเอา

...อาหารนั้น คุณค่า มันคงที่
กินกี่ปี ผ่านมา ก็เหมือนเก่า
อันเงินตรา นั้นหนา มีค่าเบา
วันหน้าเรา ต้องหา เงินมากมาย

...ค่าของเงิน แปรเปลี่ยน ไม่เสถียร
เราต้องเพียร เร่งหา มาจับจ่าย
อนาคต หากแม้น ใกล้จะตาย
ต้องขวันขวาย ไขว่คว้า หาแต่เงิน

...พอใกล้ตาย ป่วยหนัก เข้าพบแพทย์
แพทย์รับแอ็ด ไข้ใน ใช่ขวยเขิน
เงินที่เก็บ หามา มากมายเกิน
ต้องขนเงิน ให้แพทย์ แลกชีวา

...โอ้อะไร นี่หรือ คือมนุษย์
ประเสริฐสุด คิดได้ เท่านี้หนา
แม้ไก่กา หมูหมา เงินไม่มา
ไม่ต้องหา เงินตรา ว้าวุ่นใจ

...ทุกวันนี้ คนเรา เอาสมมุติ
ไม่มีสุด ไม่สิ้น เป็นไฉน?
ปรมัตถ์ สัจจะ อาหารไง?
แล้วทำไม? ไม่ดู หมูหมากัน

...โลกใบนี้ มีไว้ เป็นของกลาง
ไม่ควรอ้าง ว่ามัน เป็นของฉัน
อันผืนดิน ที่ทาง ควรแบ่งปัน
ควรจัดสรร ให้คน ทำกินไป

...ตัวเรานี้ ก็เป็น สมบัติโลก
หาใช่โลก นี้เป็น ของเราไม่
ท่านที่อ่าน ผ่านมา คงเข้าใจ
ขออภัย จากใจ เตือนชี้นำ

...อันมนุษย์ ผุดเกิด บนโลกนี้
ก็ควรที่ เข้าใจ ใช่ถลำ
จึงควรมี ธรรมะ ตัวชี้นำ
เป็นเครื่องค้ำ จุนโลก ไม่โศรกเอย...




วิธีตัดกล้วย

...เมื่อเย็นวาน ใกล้ค่ำ ฉันตัดกล้วย
ขาดผู้ช่วย กล้วยหนัก จักทำไฉน
นำรถเข็น  เข้าใกล้ ไม่ทันใด
ไม้ค้ำไว้ ดึงออก วางกับดิน

...เข้าไปโน้ม ดึงกล้วย ให้ต่ำลง
ต้องประสงค์ ดังใจ สมถวิล
เอามีดฟัน คอเครือ เพื่อไปกิน
ฉับเดียวสิ้น ขาดปุ๊ด ทรุดลงกอง

...จับประคอง เครือกล้วย อยู่บนรถ
นำทั้งหมด เฉาะหวี ที่ในห้อง
จัดตระเตรียม ล้างผล ยลเมื่อมอง
งามผุดผ่อง กล้วยสวย แจกกินฟรี

...จัดแจงแบ่ง ผลกล้วย ช่วยกันแจก
เอาไปแยก จัดสรร ตามวิถี
บุญนิยม ชมชอบ มอบของดี
ให้กินฟรี ดีจัง อร่อยเอย...

หลุมหมักขยะเปียก

...ห่างหาย สามวัน ขยะสด
ทั้งหมด ทั้งกอง ต้องขยัน
ขุดหลุม หมักอัด สักครึ่งวัน
เจ็ดวัน ผันผ่าน เป็นปุ๋ยดี

...หนึ่ง..ขุดหลุม ให้ลึก ประมาณศอก
ความกว้างบอก ประมาณ ล้อรถขี่
สอง..ใส่ขยะ เปียกสด เท่าที่มี
สาม..สี่ รดน้ำหมัก สลับดิน

...เมื่อใส่เสร็จ เต็มหลุม เอาดินกลบ
ผ้ายางตลบ ปิดกอง ทับไม่ดิ้น
เพียงเจ็ดวัน ผ่านพ้น ให้พืชกิน
ปุ๋ยอัดดิน หลุมหมัก ผักงามเอย..





...ต้องขอบคุณ น้ำพ่น เหมือนฝนตก
ไม่โกหก ตามนัด จัดเช้าค่ำ
นาฬิกา ตั้งเวลา พาปุ๋ยนำ
ผสมน้ำ ฉีดปุ๋ยพ่น ทุกเช้าเย็น...


ลูกเผือกน้อย กลอยใจ นำมาเพาะ
มันช่างเหมาะ ดินแฉะชื้น ขึ้นเร็วรี่
รอบกอกล้วย ช่วยเผือกน้อย ให้โตดี
มาวันนี้ ที่ในสวน ควรปลูกเอย..


...ไม้ไผ่พิง อิงต้นกล้วย ช่วยถั่วพู
ให้พันคู่ สู่เบื้องสูง มุ่งหาแสง
ไม่นานนัก จักได้ชิม ฝักสีแดง
อมม่วงแฝง เบนต้า แคโรทีน...

..ขุดหลุมลึก เท่าเข่า มาเล่าขาน
ไม่ช้านาน ได้หลุมหมัก ขยะเปียก
ตัดหน่อกล้วย รองก้นหลุม คนเขาเรียก
ยินสำเหนียก ว่าปุ๋ยหลุม ดินชุ่มดี

..ขยะเปียก เรียกมาเติม ทุกวันให้
เพื่อจะได้ เก็บขยะ หมักเป็นที่
ไม่ช้านาน หนึ่งสัปดาห์ กำลังดี
กลบดินที่ ข้างหลุม คลุมลงไป

..เจ็ดวันผ่าน พ้นไป ใยเร็วรี่
เราก็มี ดินดี ปลูกพืชได้
ปลูกเผือก ปลูกเตย เลยถูกใจ
มีน้ำให้ ใกล้น้ำพ่น ทุกเช้าเย็น

..อันว่าพืช พรรณนานา เขตร้อนชื้น
มักจะขึ้น ปะปนไป ใครก็เห็น
หากปลูกพืช เชิงเดี่ยว เดี๋ยวลำเค็ญ
ก็จะเป็น ปัญหา พาทุกข์เอย..

การสอนเด็กให้เอาถ่าน

..การสอนเด็ก ให้เอาถ่าน นั้นไม่ยาก
จึงขอฝาก เป็นบทกลอน อักษรสาสน์
เด็กยุคนี้ มีมากล้น ไม่เอางาน
ขี้เกียจคร้าน งานไม่แล แย่จริงๆ

..การเอาถ่าน เอาทำไม ใคร่ขอบอก
อยู่บ้านนอก บ้านป่า ไม้มียิ่ง
ไฟป่าไหม้ วอดวาย ไวไฟจริง
ประโยชน์ยิ่ง ถ้ารู้เอา เผาไม้เป็น

..เผาเอาควัน กลั่นไอ ได้น้ำส้ม
เผาหุงต้ม ได้ถ่านไม้ ไม่ยากเข็ญ
เผาทำปุ๋ย Biochar ไม่ยากเย็น
ถ้าเผาเป็น เห็นประโยชน์ โปรดตรองดู

..มาวันนี้ ชี้ช่องทาง ให้เด็กคิด
ถ้ามีจิต จดจ่องาน ตื่นเช้าตรู่
สบัดกาย คลายขี้เกียจ ทำอย่างครู
ขอให้หนู ผู้หมั่นเพียร จงเจริญ

..เรามาเผา เอาไม้แห้ง ไม้เนื้ออ่อน
ไม่รีบร้อน ค่อยเก็บมา อย่าห่างเหิน
เอามาเผา เอามาอบ ทำแล้วเพลิน
ไม่ช้าเกิน Biochar พาปรุงดิน

..ก่อนจะเผา เราต้องเตรียม เตาเผาไว้
ขุดดินให้ เป็นวงกลม จมมิดสิ้น
30 เซ็น เหล็กเส้นผูก คานคอดิน
ไม่ให้กิน รากฐานเรา เตามั่นคง

..ออกแบบเตา เราต้อง คำนึงคิด
มันต้องปิด อากาศได้ ตามประสงค์
ถ้าเตาร้อน มากเกินไป ไม่เย็นลง
เราจึงคง ความหนาเตา 60 เซ็น

..เมื่อทำเสร็จ ภายในกลวง ทรงกระบอก
สูงสามศอก บรรจุถัง ไม่ยากเข็ญ
ภายในถัง บรรจุไม้ เพื่อเผาเป็น
ที่อยู่เย็น จุลินทรีย์ ดินดีเอย..


การทำสาวกล้วย

..การปลูกกล้วย เราควรช่วย ให้ลูกดก
เดือนที่หก ใกล้ที่จะ มีลูกได้
ก่อนจะมี ปลีดอก ขอบอกไว้
ทำสาวให้ กล้วยนั้น จึงบอกมา

..เดือนที่สาม กล้วยเริ่มงาม เริ่มออกหน่อ
อย่ารีรอ ขอให้ตัด หน่อเถิดหนา
เพื่อจะให้ ต้นแม่นั้น งดงามตา
อันจะพา ให้ลูกดก สมบูรณ์ดี

..ส่วนต้นหน่อ กล้วยอ่อนนั้น ที่ถูกตัด
เอาไปจัด การทุบแตก อย่างเร็วรี่
แล้วนำลง ถังหมักปุ๋ย อย่ารอรี
ทำตามที่ บอกนี้หนา อย่าช้าพลัน

..เบียร์แม็คกี้ เอาค้อนยาง นั้นมาทุบ
ให้พอยุบ บดบู้บี้ ขมีขมัน
แต๊ะและเหิน อย่าเพลิน มัวคุยกัน
มิฉะนั้น วันเวลา พาหมดเอย



มะละกอจากขยะ

..มะละกอ ต้นนี้หนอ ก็ขึ้นเอง
ทำอวดเก่ง มีผลดก เสียยกใหญ่
ขยะทิ้ง จากโรงครัว มีทั่วไป
ไม่ต้องไป ซื้อเมล็ด ช่างดีจริง

..เอ๊ะทำไม ผลเมื่อสุก ไม่มีเมล็ด
ช่างเหมือนเพชร เมล็ดไม่มี เหมือนผีสิง
ช่างเหมือนเรา นี่ละหนา พาแปลกจริง
ลูกชายหญิง ก็ไม่มี สักคนเลย...


ปราชญ์มองเลข 0

..มองเลข "0"  เป็นปรัชญา พาให้คิด
จะถูกผิด ก็คิดได้ ใช่ไหมเพื่อน
ฉันมอง "0"  มีความหมาย ไม่เลอะเลือน
เพื่อนๆ เห็น "0"  วก วน เป็นวงกลม

..เหมือนว่าเป็น สัญลักษณ์ ความเป็นโลก
มีเศร้าโศรก มีสุขทุกข์ ไม่สุขสม
ต่างดิ้นรน ขวนขวาย เหมือนคว้าลม
ชีวีล่ม แบมือออก บอก"0"มา

.."0" เป็นเลข ที่พร้อม ยืนต่อท้าย
หมายเพิ่มค่า เลขใดๆ ให้สูงค่า
ถ้าขาด "0" มาต่อท้าย ไม่นำพา
นี่แหละหนา ค่าของ "0" ช่างมากจริง

..จะเลขไทย อารบิค หรือเลขแขก
"0" นี้แปลก มีอำนาจ บทบาทยิ่ง
เมื่อเริ่มนับ "1"  ถึง "0" ช่างงงจริง
ต้องวนวิ่ง นับ "1"  ใหม่ ทุกครั้งไป

..การเล็งปืน เล็งเป้า ต้องเข้า "0"
เพิ่มตัวคูณ คะแนนมาก ท่านเห็นไหม
ฉะนั้นค่า ของ "0"  มีถมไป
เลขใดๆ ต้องรอ "0" มาติดตาม

..เลข "0" คือ มัฌชิมา พาพิศวง
มันงวยงง สงสัย ใคร่ขอถาม
ใยยืนอยู่ กลางกราฟ เหมือนอยู่ยาม
อันว่านาม เลข"0" นี้ คือเป็นกลาง

.."0"หลังจุด มีค่าน้อย ด้อยค่ายิ่ง
มันเป็นสิ่ง ผกผันค่า เหมือนหยินหยาง
".01"  1 ใน 100 น้อยเพราะวาง
"0" นำทาง ค่ายิ่งน้อย พลอยแปลกใจ

..เมื่อเอา "0" คูณเลขใด ก็ได้ "0"
ไม่เพิ่มพูน มูลค่า เป็นไฉน
แม้มอดม้วย มรณา ด้วยเหตุใด
คนเราไซร้ ควรอยู่ "0" เป็นสุขดี

..พุทธองค์ ยังทรง เข้าหา "0"
ธรรมนูญ พุทธแท้ๆ แลสุขขี
กิเลสตาย ไม่เหลือร้าย วายชีวี
อุทิศพลี เป็นแบบอย่าง ในทางธรรม

..มาวันนี้ ชีวิตฉัน ไม่มีเสี่ยง
เพราะฉันเพียง พอมี "0" ใช่ว่าขำ
ฉันอยู่ได้ กินได้ ไม่ระกำ
เพราะมีธรรม อยู่ที่ใจ จึงพอเพียง

..ทุกวันนี้ ค่าครองชีพ ยิ่งหนี "0"
ทวีคูณ ค่าสินค้า พากันเสี่ยง
เดือนละหมื่น ห้าพันบาท ไม่พอเลี้ยง
ช่างสิ้นเกลี้ยง อนิจจา ประเทศไทย

..จะลงทุน ทำอะไร ให้อยู่ "0"
เป็นตัวคูณ ด้วยแรงเรา เอาใจใส่
ไม่ต้องคิด จะขาดทุน ทำเรื่อยไป
ต้องเอาใจ ใส่มานะ จะพอกิน

..ถ้าเสีย "0" แล้วเพื่อน จะสูญเสีย
เพราะต้องเคลียร์ หนี้สิน มิรู้สิ้น
ขอให้เพื่อน ทำอยู่ และทำกิน
เพื่อชีวิน มีแต่สุข ทุกวัน..เอย..