วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

ล้างพิษตับแบบบุญนิยม....ฟรี 3 วัน

มะเร็งลำไส้ใหญ่ ป้องกันได้ด้วยการล้างพิษ

พิกัดที่ตั้งภูมิศาสตร์ (GPS)  ของสีมาอโศก : N 14.892795, E 102.156657

ภาพกิจกรรมเข้าคอร์สล้างพิษตับ

 ๒๓-๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๖

ลงทะเบียนกรอกประวัติ


วัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก

ชุดอุปกรณ์ล้างพิษตับพร้อมแจกให้ใช้ประจำตัว


น้ำดื่มล้างพิษลำไส้ปรับสมดุล


ลิตท็อกซ์สวนล้างลำไส้ สูตร 1-2

น้ำด่างอัลคาไลค์
(คุณไทคุง "ชาญวิทย์ มรรคทรัพย์ ผู้รับสายโทรสมัครเข้าคอร์ส)

ออกกำลังกายช่วงเช้า ด้วยท่าแอร์โรบิค
เพิ่มคำอธิบายภาพ

หลังจากออกกำลังกาย ดื่มน้ำล้างพิษ พอกหน้าดูดพิษออกให้หน้าใสเด้ง

คุณชัย คุณอั๋น ผู้เป็นหลักบริจาคทรัพย์และแรงงานจัดคอร์สล้างพิษตับ
วัตถุประสงค์ในการจัดค่ายสุขภาพของชุมชนฯ
๑. เพื่อให้ความรู้และทางเลือกในการดูแลรักษาสุขภาพด้วยตนเองอย่างประหยัด เรียบง่าย ใกล้ตัว แบบองค์รวม 
๒. เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และวิธีปฏิบัติในการดูแลสุขภาพ ให้กับคนในครอบครัวและคนใกล้ชิด
๓. เพื่อให้เกิดความเข้าใจและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ให้ถูกต้องเหมาะสม
๔. เพื่อให้เกิดความเข้าใจและการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตไปสู่การมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดียิ่งขึ้น
๕. เพื่อให้ลดค่าใช้จ่ายของตนเองและลดงบประมาณในการรักษาพยาบาลของประเทศ

เงื่อนไขการรับบริจาค    

    ผู้ที่ประสงค์จะร่วมสมทบทุนเพื่อการจัดค่ายสุขภาพในครั้งต่อๆไป สามารถร่วมบุญได้ตามเงื่อนไขต่อไปนี้
๑. ผู้มีสิทธิบริจาค "เงิน" ให้กับกองทุนค่ายสุขภาพ หรือส่วนกลางของชุมชนชาว
    อโศก ต้องมีคุณสมบัติตามข้อ ๑.๑ หรือ ๑.๒ ข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
    ๑.๑ ต้องเคยมาเข้าวัดฟังธรรม สนทนาธรรม ร่วมกิจกรรมหรือมาคบคุ้นในชุมชนชาวอโศก อย่างน้อย ๗ ครั้ง (เพื่อศึกษาแนวทาง เป้าหมายการปฏิบัติ และวิถีการดำเนินชีวิตของชาวอโศก ให้เข้าใจจนเกิดศรัทธาด้วยสัมมาทิฏฐิ เป็นประโยชน์ตนประโยชน์ท่านอย่างแท้จริง และเพื่อป้องกันการแอบแฝงหาประโยชน์จาก "เงิน" ทั้งทางตรงและทางอ้อม)
    ๑.๒ เคยอ่านหนังสือของชาวอโศก อย่างน้อย ๗ เล่ม
๒. บุคคลทั่วไปนอกเหนือจากข้อ ๑ ยังไม่มีสิทธิ์บริจาคเป็น "เงิน" แต่สามารถร่วมบุญโดยบริจาคเป็นสิ่งของหรือวัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ในกิจกรรมเข้าค่ายล้างพิษ

ระเบียบการสมัครเข้าค่ายสุขภาพล้างพิษตับ-ปรับสมดุล 

จัดโดย คุณบุญชัย และทีมงาน
ณ  ชุมชนบุญนิยมสีมาอโศก
๙๔ หมู่ ๕ ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ๓๐๐๐๐

กำหนดวันเข้าคอร์สนี้...จะกำหนดเป็นเดือนต่อเดือน ไม่กำหนดล่วงหน้า

กำหนดวันรับสมัคร เฉพาะวันที่ ๑ ของทุกๆ เดือนเท่านั้น เวลา ๘.๐๐ น. และจะจัดคอร์ส วันศุกร์-อาทิตย์สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ที่ท่านผ่านการสมัครไว้แล้ว ดังนี้


๑. รับสมัครรุ่นละไม่เกิน ๔๐ คน (จัดเดือนละครั้ง)
๒. กำหนดวันเข้าค่ายสุขภาพล้างพิษตับฟรี ๓ วัน เริ่มเที่ยงวันศุกร์ ออกเที่ยงวัน
     อาทิตย์สัปดาห์สุดท้ายของเดือน   เดือนใดที่คล่อมเดือนจะเลื่อน
     ขึ้นมา ๑ สัปดาห์ เพื่อไม่ให้ชนกับวันที่ ๑ ซึ่งเป็นวันรับสมัคร
๓. สอบถาม ดูรายละเอียดที่ URL: http://k2499.blogspot.com/2012/09/3.html
     เข้าเน็ตไม่ได้ติดต่อ อ.กมล 086-244-9557 
๔. สมัครได้เฉพาะในวันที่ ๑ ของทุกเดือน ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น. เป็นต้นไป
     ด้วยการโทรศัพท์ไปที่.....

คุณ..ไทคุง (ชาญวิทย์ มรรคทรัพย์)

   เบอร์โทร. 086-875-0548

     ท่านจะต้องตอบข้อซักถาม ตอบข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับคุณสมบัติ ความพร้อม
     ของร่างกาย ประสบการณ์ความรู้เดิมก่อนเข้าคอร์ส หากท่านผ่านการสัมภาษณ์
     ให้ท่านเตรียมข้อมูลเลขที่บัตรประชาชน ๑๓ หลัก เพื่อจะได้บันทึกข้อมูลท่าน
     รับลงทะเบียนเข้าคอร์สต่อไป
          อนึ่งเมื่อมีสมาชิกโทรเข้าไป และมีผู้ที่ผ่านการตอบข้อซักถาม
     ครบเต็มจำนวน ๔๐ ท่านแล้ว คุณไทคุง จะงดรับโทรศัพท์ และขณะที่ช่วงรับสาย
    โทรเข้าไปสมัครนั้น ถ้าท่านโทรไม่ติด แสดงว่าสายไม่ว่าง เพราะรับโทรเพียง
    สายเดียว เนื่องจากมีผู้สนใจเข้าร่วมจัดคอร์สล้างพิษตับ..แบบฟรีเพื่องานบุญ..นี้
    เป็นจำนวนมาก

ข้อกำหนดผู้สมัครเข้าค่ายล้างพิษตับ-ปรับสมดุล สูตรระยะสั้น ๓ วัน

๑. อายุไม่ต่ำกว่า ๑๕ ปี และไม่เกิน ๗๐ ปี
๒. ไม่เป็นโรคมะเร็ง เบาหวาน ไต ระยะสุดท้าย โรคหัวใจที่ผ่านการทำบอลลูน หรือ
     บายพาส
๓. ไม่เป็นแผลในกระเพาะอาหาร ความดันโลหิตสูงไม่เกิน ๑๘๐/๑๐๐
๔. ไม่เป็นโรคติดต่อที่ร้ายแรง
๕. สุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถดูแลตนเองและปฏิบัติได้ตลอดหลักสูตร ๓ วัน
๖. เคยทำดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้ (แบบสวนทวาร) มาก่อนแล้ว
๗. ต้องเคยทำดีท็อกซ์แบบสวนล้างลำไส้ใหญ่ด้วยตนเองมาก่อน
๘. ระหว่างเข้าค่ายหรือพักค้างในชุมชน กรุณางดสูบบุหรี่

การเตรียมตัวก่อนเข้าค่าย

๑. เข้าพื้นที่และลงทะเบียนวันแรกของการเข้าค่ายก่อนเวลา ๑๑.๐๐ น. และปิดรับ
    ลงทะเบียนเวลา ๑๓.๐๐ น.
๒. หากต้องการพักค้างในชุมชน(ที่พักเป็นเรือนนอนและห้องน้ำรวม) ให้เตรียม
    เครื่องนอนและของใช้ส่วนตัว เช่น เต้นท์ มุ้ง ผ้าห่ม เสื่อ หมอน ผ้าถุงหรือผ้า
    ขาวม้า ผ้าขนหนูผืนเล็ก ฯลฯ หากต้องการไปกลับ หรือหาที่พักเองนอกชุมชน
    ให้แจ้งในวันสมัครด้วย เพื่อความสะดวกในการจัดเตรียมที่พัก
๓. เตรียมภาชนะส่วนตัว ได้แก่ แก้ว หรือถ้วยน้ำดื่ม ช้อน และขวดหรือกระบอก
    ใส่น้ำแบบพกพา
๔. เพื่อการขับพิษที่มีประสิทธิภาพ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน นมวัว เนื้อสัตว์ 
    แป้ง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม งดสูบบุหรี่ และนอนหลับพัก
   ผ่อนให้เพียงพอ ก่อนเข้าค่ายอย่างน้อย ๗ วัน

  ค่าใช้จ่ายในการเข้าคอร์สล้างพิษ ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

   เพื่อสนองนโยบายสุขภาพบุญนิยมของชาวอโศก


กำหนดการล้างพิษตับ


วันที่ ๑

๑๐.๓๐ น.               รับเอกสาร ลงทะเบียน  ดื่มลิดท็อกซ์ ครั้งที่ ๑
๑๒.๐๐ น.               ปิดรับลงทะเบียน
๑๓.๐๐ น.               ปฐมนิเทศ
๑๔.๐๐ น.               เข้าที่พัก ทำดีท็อกซ์
๑๖.๓๐ น.               รวมตัวที่ศาลา     ดื่มลิดท็อกซ์ ครั้งที่ ๒
๑๗.๐๐ น.              ทำวัตรเย็น โดยท่านสมณะ
๑๘.๐๐๒๐.๐๐ น. ฟังบรรยาย         ดื่มลิดท็อกซ์ ครั้งที่ ๓

วันที่ ๒

๐๕.๓๐-๐๘.๐๐ น. พร้อมกันที่ศาลา  อมน้ำมันมะพร้าว  กายบริหาร ฟังบรรยาย
๐๘.๐๐ น.              ตักบาตรสมณะด้วยอาหารมังสวิรัติ
๐๘.๕๐ น.             เข้าร่วมกิจกรรมในศาลา ดื่มลิดท็อกซ์ ครั้งที่ ๔
๑๐.๐๐ น.              เรียนกัวซา (ปรับสมดุลร่างกาย)
๑๒.๐๐ น.              ดื่มลิดท็อกซ์ ครั้งที่ ๕  ทำดีท็อกซ์
๑๔.๐๐ น.              กิจกรรมในศาลา  แบ่งกลุ่มพบสมณะ
๑๖.๐๐ น.              ดื่มดีเกลือ
๑๗.๐๐ น.             ดื่มน้ำมันมะกอก ฟังบรรยาย
๑๙.๓๐ น.             แยกย้ายเข้าที่พัก

วันที่ ๓

๐๗.๐๐ น.            รับประทานอาหาร
๐๙.๐๐ น.            ทำดีท็อกซ์ เก็บสิ่งขับถ่ายไว้ตรวจ
๑๐.๐๐ น.            นำถังสิ่งขับถ่ายมาตรวจ
๑๑.๐๐ น.            สรุปผล เปิดใจ รับพรก่อนจาก
                           คืนสิ่งของที่ยืม รับบัตรประชาชน

คำแนะนำ วิธีดื่มลิดท็อกซ์



ลิดท็อกซ์ครึ่งช้อนแกง ผสมน้ำมะขามอุ่นๆ ชงให้เข้ากันและรีบดื่มทันที
ดื่มน้ำต้มสมุนไพร หรือน้ำเปล่าตาม เพื่อการชำระล้างลำไส้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อควรระวังสำหรับการดื่มน้ำด่าง

เนื่องจากหัวน้ำด่างมีความเข้มข้นสูง ควรผสมตามอัตราส่วนที่คณะวิทยากรแนะนำ ไม่ควรดื่มเฉพาะหัวน้ำด่าง หรือผสมเข้มข้นไป เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายอย่างมาก





การวิเคราะห์ของเสียที่ออกจากตับ ตับอ่อน ถุงน้ำดี ในภาชนะถังพลาสติกใส โดยใช้ไม้พายกวนก่อนวิเคระห์

๑. สิ่งที่ลอยอยู่ข้างบน คือ
     ก. นิ่วจากถุงน้ำดี มีลักษณะเป็นก้อนกลมเกลี้ยง สีเขียวมรกต สีน้ำตาล สีดำ
     ข. ไขมันจากตับ ไขมันพอกตับ และนิ่วในตับ (สีเหลือง เขียว ดำ เป็นก้อนผิวขรุขระ) เป็นคราบมันล้าง
         ออกยาก
     ค. นิ่วเม็ดทราย ลักษณะคล้ายเม็ดทราย สีเหลือง น้ำตาล ลอยบนน้ำ
๒. เซลล์เสีย (เซลล์ก่อมะเร็ง) ลักษณะเหมือนเห็ดหูหนูขาว ลอยอยู่ชั้นกลางของถัง
๓. สารบิริลูบิน (เม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ) อยู่ล่างสุดก้นถัง คล้ายน้ำต้มก๋วยเตี๋ยว
๔. กลิ่นเหม็นมาก เป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ที่เน่าหมักหมมในตับ
๕. ตะกรันจากลำไส้ จมอยู่ก้นถัง รวมกับลิดท็อกซ์ที่ดีท็อกซ์ออกไม่หมด

ข้อควรปฏิบัติหลังจากล้างพิษตับ-ถุงน้ำดี

๑. ให้ระลึกเสมอว่าตนเพิ่ง "ออกจากห้องผ่าตัด" เอานิ่วออกจากร่างกาย ควรระมัดระวังการกินอยู่หลับ
     นอนให้ดี ไม่หักโหมงานหนักอย่างน้อย ๗ วัน
๒. ต้องพักผ่อนหลับนอนให้เพียงพอ เข้านอนไม่เกิน ๒๑.๐๐ น. (อย่างน้อย ๓-๕ วัน)
๓. รับประทานอาหารอ่อน อย่างน้อย ๓ วัน (ประเภทผักต้ม แกงจืด ไม่รสจัด หลีกเลี่ยงอาหารทอด)
๔. ต้องสวนล้างลำไส้ เช้าและเย็น ต่ออีก ๗ วัน เพื่อเอานิ่วและไขมันที่ค้างในลำไส้ ออกให้หมด
๕. กินอาหารเน้นผักผลไม้ ๘๐% แป้งและโปรตีน ๒๐% (โปรตีนจากพืช) เพื่อยืดอายุให้แก่เซลล์
๖. ดื่มน้ำผลไม้คั้นสด ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้ดีเร็วขึ้น
๗. ดื่มน้ำเปล่าทุกชั่วโมงระหว่างวัน ตั้งแต่ตื่นนอน ให้ได้วันละ ๒-๓ ลิตร เป็นประจำทุกวัน
๘. รับประทานสมุนไพรบำรุงตับ เช่น ลูกใต้ใบ ขมิ้นชัน น้ำขี้กาขาว และอื่นๆ
๙. ปรับสมดุลกาย จิต ให้สงบ สวดมนต์ นั่งสมาธิ และหายใจให้ยาวเป็นปกติ
๑๐. ปฏิบัติตนตามหลัก ๘ อ. (อิทธิบาท อารมณ์ อาหาร อากาศ ออกกำลังกาย เอาพิษออก เอนกาย
       และอาชีพ)

ข้อควรปฏิบัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการล้างพิษตับ ให้ได้ผลมากขึ้นในครั้งต่อไป

๑. ดื่มลิดท็อกซ์ (๑/๒ - ๑ ช้อนชา) ผสมกับซีเลี่ยมฮัท (๑ ช้อนโต๊ะ) ทุกวัน เช้า-เย็น เป็นการช่วยเซาะพิษ
     และดูดซับสารพิษ ที่ค้างในลำไส้ออกให้ดี การขับถ่ายจะดีขึ้น การซ่านพิษในการล้างพิษครั้งต่อไป
    จะลดลงด้วย
๒. ดื่มน้ำอัลคาไลน์ ค่า pH 8-9 แทนน้ำเปล่าตลอดวัน เพื่อปรับสมดุลเลือด และขับล้างสารพิษ
๓. ดื่มน้ำปัสสาวะช่วงเช้า วันละ ๑ แก้ว เพื่อสร้างภูมิต้านทาน (ตรวจสอบสุขภาพและพฤติกรรมการกิน
    ได้ด้วยน้ำปัสสาวะ : รสเปรี้ยว - ตับบกพร่องเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง, รสขม - หัวใจบกพร่อง, รสเค็ม - ไต
    บกพร่อง, รสจืด - คล้ายน้ำชา ดีที่สุด)
๔. ควรแช่มือ แช่เท้า และกัวซาร่วมด้วย เพื่อช่วยขับพิษออกได้หลายๆทาง
๕. กำหนดเวลาในการล้างพิษแต่ละช่วง สามารถปรับได้ตามความสะดวก ยกเว้นช่วงดื่มดีเกลือและ
    น้ำมันมะกอก ต้องตรงเวลา
๖. ความถี่ในการล้างพิษ สูตรระยะสั้นนี้สามารถทำได้ เดือนละ ๑-๒ ครั้ง

ขอเชิญเข้าร่วมกิจกรรมประเพณี "วันเสาร์เข้าวัดฟังธรรม

ทุกวันเสาร์

๐๘.๓๐ น.  ร่วมทำบุญตักบาตร (บริเวณถนนหน้าศาลาวิหาร)
๐๙.๐๐ น. ฟังธรรม "เทศน์ก่อนฉัน"
๑๐.๐๐ น. รับประทานอาหารบุญ (มังสวิรัติ)
๑๑.๓๐ น. ร่วม "เก็บบุญ" ตามอัธยาศัย
๑๓.๐๐ น. ท่านที่มีเวลาว่างสามารถเลือกกิจกรรมบำเพ็ญบุญได้ตามความสมัครใจ
                 - สนทนาธรรม กับสมณะ
                 - เดินชมดูสถานที่ภายในชุมชนสีมาอโศก
                 - ช่วยงานตามฐานงานต่างๆ หรือจะเรียนรู้สอบถามพูดคุยกับฐานงานที่
                   ท่านสนใจ

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

พุทธสถานสีมาอโศก

       

         ชุมชนบุญนิยมสีมาอโศกเกิดจากการรวมตัวกันของผู้มาปฎิบัติธรรม ด้วยความเลื่อมใสในคำสอนของพ่อท่านหรือพ่อครู"สมณะโพธิรักษ์" มีลักษณะดังนี้

         ๑. เป็นชุมชนของนักปฏิบัติธรรม ประกอบด้วยบ้าน วัด โรงเรียน
         ๒. เป็นชุมชนใช้เศรษฐกิจในระบบบุญนิยมแบบพอเพียง ตามอุดมการณ์(Motto) "เศรษฐกิจพึ่งตน ชุมชนเข้มแข็ง ประชามีธรรม ประเทศเป็นไท"
         ๓. คุณสมบัติขั้นต่ำของสมาชิกชาวชุมชน คือ ปฏิบัติศีล ๕ ไม่มีอบายมุข ทานอาหารมังสวิรัติ
         ๔.สวัสดิการของชุมชนระบบบุญนิยม เมื่อผู้สนใจได้เข้าไปอยู่ในชุมชนเป็นเวลา ๓ เดือนขึ้นไป ทำงานให้ส่วนกลาง ๑๐๐ % จะได้รับสวัสดิการ กิน อยู่อาศัย รักษาพยาบาล การเดินทาง การศึกษา โดยไม่ต้องจ่ายเงิน ยึดหลักการสาธารณะโภคี จากหลักธรรม "สาราณียธรรม ๖"

          ที่ตั้ง

          ชุมชนบุญนิยมสีมาอโศก ตั้งอยู่ทางทิศเหนือฃองบ้านอ่างหนองแหน และตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดหนองบัวศาลา อยู่ทางด้านตะวันตกถนนสายราชสีมา-โชคชัย ก.ม.๙ เลขที่ ๙๔ หมู่ ๕ ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา รหัสไปรษณีย์ ๓๐๐๐๐ โทรศัพท์ ๐๔๔-๒๑๒๗๙๗

          ขนาดพื้นที่ มีพื้นที่ ๑๐๕ ไร่ กรรมสิทธิ์เป็นของสมาคมผู้ปฏิบัติธรรม

          พื้นที่นอกชุมชน เป็นพื้นที่ที่มีผู้บริจาคให้เป็นของสมาคมผู้ปฏิบัติธรรม ได้แก่

          ๑. ที่ดินทำกสิกรรม ทำนา สำสวน ที่ตั้งอยู่ติดลำน้ำลำตะคอง ที่หมู่บ้านโป่งแดง ต.โป่งแดง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา จำนวน ๙ ไร่
          ๒. ที่ดินและตึกร้านค้าขายอาหารมังสวิรัตินครราชสีมา ตั้งอยู่ที่ถนนสุรนารายณ์ ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โทร.๐๔๔-๒๕๖๐๖๐
          ๓. ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จำนวน ๔๐ ไร่ จัดสร้างที่พักฟื้นรักษาสุขภาพ ของนักบวช และนักปฏิบัติธรรมชาวอโศก
          ๔. ที่ดินในเขต ต.ค้างพลู อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา จำนวน ๔๐ ไร่
ทำนาแบบโยนต้นกล้าข้าวที่บ้านโป่งแดง ต.โป่งแดง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา

            ชุมชนบุญนิยมสีมาอโศก ประกอบไปด้วย ๔ คุ้มบ้าน คือ 

          ๑.คุ้มบ้านบุญนิยมสีมาอโศก 
          ๒.คุ้มบ้านจนดี 
          ๓.คุ้มบ้านเกื้อกูล 
          ๔.คุ้มบ้านหน้าวัด

           กิจวัตรประจำวันโดยปกติ มีดังนี้

           ตื่นเช้า ๐๓.๓๐ - ๐๕.๓๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเช้าที่ศาลาส่วนกลาง ๔ วันใน ๑ สัปดาห์ คือ เสาร์ อาทิตย์  อังคาร พฤหัสบดี
           ๐๖.๐๐ - ๐๙.๐๐ น. ลงฐานงานต่างๆ
           ๐๙.๐๐ - ๑๐.๐๐ น. เข้าศาลา ฟังธรรมก่อนฉัน ยกเว้นวันพุธไม่มีแสดงธรรมก่อนฉัน
           ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. ถวายภัตตาหาร และรับประทานอาหารมังสวิรัติร่วมกันที่ศาลาส่วนกลาง
           ๑๒.๐๐ - ๑๓.๐๐ น. ทำกิจส่วนตัว
           ๑๓.๐๐ - ๑๕.๓๐ น. ลงฐานงานต่างๆ
           ๑๕.๓๐ - ๑๖.๐๐ น. ทำกิจส่วนตัว
           ๑๖.๐๐ - ๑๘.๐๐ น. รับประทานอาหารมังสวิรัติที่โรงครัวกลาง (สำหรับผู้รับประทานอาหาร ๒ มื้อ)
           ๑๘.๐๐ - ๒๐.๐๐ น. ฟังธรรมจากสื่อสารบุญนิยม รายการจากโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม FMTV
           ๒๐.๐๐ - ๒๑.๐๐ น. ทำกิจส่วนตัว
           ๒๑.๐๐ น.                พักผ่อนหลับนอน
ตักบาตรโครงการเข้าวัดฟังธรรมทุกวันเสาร์

          

          สำหรับบุคคลภายนอก มีโครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรมทุกวันเสาร์ กิจกรรมได้แก่ 

           ๐๘.๐๐ น.ตักบาตร ด้วยอาหารมังสวิรัติ 
           ๐๘.๓๐ น. ฟังธรรม 
           ๑๐.๐๐ น. รับประทานอาหารมังสวิรัติร่วมกัน
           ๑๓.๐๐ น. ศึกษาเรียนรู้จากฐานงาน หรือช่วยพัฒนาวัด

         การบริหารงานของชาวบุญนิยมสีมาอโศก

           มีคณะผู้บริหาร ๔ คณะ คือ ๑. นักบวช  ๒.ผู้อาสารับใช้จากญาติธรรม ๓. สภากรรมการนักเรียน ๔. คณะคุรุผู้สอนทั้งคุรุวิชาการและฐานงาน
           การประชุม เป็นเรื่องที่สำคัญของชาวชุมชนบุญนิยม งานจะสำเร็จได้ด้วยการประชุมที่มีทิฏฐิส่วนใหญ่ไปในแนวทางเดียวกัน

         กำหนดสมัยประชุม ดังนี้

           ๑. การประชุมจากผู้อาสารับใช้ กำหนดวันเสาร์ เว้นเสาร์ เดือนละ ๒ ครั้ง ยกเว้นกรณีพิเศษ มติจากที่ประชุมในเรื่องสำคัญ ก่อนการปฏิบัติต้องนำเสนอต่อที่ประชุมชาวชุมชนให้ความเห็นชอบ
           ๒. การประชุมชาวชุมชน กำหนดเดือนละ ๑ ครั้ง
           ๓. การประชุมคณะกรรมการนักเรียน สัปดาห์ละครั้ง โดยมีสมณะ คุรุผู้สอน เข้าร่วมประชุมด้วย

         ฐานการงานที่สำคัญของชาวชุมชนบุญนิยมสีมาอโศก มีดังนี้

           ๑. ฐานงานกสิกรรมบุญนิยมไร้สารพิษ ปลูกพืชผักไร้สารเคมี ไร้สารพิษต่างๆ เน้นเพื่อการบริโภคให้พอเพียงแก่ชาวชุมชน ส่วนเกินนำไปประกอบอาหารขายที่ร้านมังสวิรัตินครราชสีมา
           ๒. ฐานงานพาณิชย์บุญนิยม ได้แก่ 
                ๒.๑ งานแปรรูปเป็นสินค้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อใช้ในชุมชน และจำหน่าย เช่น ทำน้ำยาสระผม น้ำยาล้างจาน สบู่เหลว น้ำยาซักผ้า ตะไคร้หอมไล่ยุง น้ำมันเขียว ฯลฯ
                ๒.๒ งานร้านค้าแดนรวมใจ เป็นร้านค้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชนชาวอโศก
                ๒.๓ งานร้านค้าขายอาหารมังสวิรัติ และขายวัตถุดิบในการประกอบอาหารมังสวิรัติ ของสมาคมผู้ปฏิบัติธรรม
                ๒.๔ งานขายปุ๋ยชีวภาพ ตรา "งอกงาม" จากโรงงานปุ๋ยชีวภาพของชาวอโศก ตั้งอยู่ที่ชุมชนบุญนิยมราชธานีอโศก
           ๓. ฐานงานสื่อสารบุญนิยม เป็นฐานงานบันทึกภาพกิจกรรมทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ เพื่อรายงานสู่ส่วนกลางที่สันติอโศก และรับถ่่ายทอดสัญญาณวิทยุชุมชน จากสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม FMTV
           ๔. ฐานงานการศึกษาบุญนิยม เป็นฐานงานให้การศึกษาเกี่ยวกับการแสดงธรรม การปฏิบัติธรรม และสอนนักเรียนสัมมาสิกขา ชั้น ม.๑ ถึง ม.๖ ตลอดจนผู้สนใจเข้ามาศึกษาดูงาน
           ๕. ฐานงานขยะวิทยาด้วยหัวใจ เป็นฐานงานเก็บ จัดแยก แปรรูปขยะเป็นปุ๋ยสะอาด นำขยะไปจำหน่าย นำรายได้จัดส่งเป็นทุนให้สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม FMTV
           ๖. ฐานงานการเมืองบุญนิยม เป็นฐานงานของชาวอโศก ชื่อพรรคเพื่อฟ้าดิน ดำเนินงานทางการเมืองแบบบุญนิยม ทำการเมืองด้วยการเสียสละ ไม่เห็นแก่ตนเองและพรรค ก่อตั้งพรรคเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๓ จุดเน้นนโยบายของพรรคเพื่อฟ้าดิน คือ สุขภาพวิถีธรรม กสิกรรมไร้สารพิษ ที่ชุมชนบุญนิยมสีมาอโศก เป็นที่ตั้งสำนักงานสาขาพรรคเพื่อฟ้าดิน ลำดับที่ ๓ จังหวัดนครราชสีมา







วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

ของกล้วยๆ ใครก็ปลูกได้

การปลูกกล้วย และวิธีการบำรุงให้กล้วยได้ผลผลิตที่ดี

ป่ากล้วยน้ำว้าพันธุ์เตี้ย ต้นแข็งแรง ให้ผลดก ไม่มีเมล็ด ปลูกหน้าถนนชุมชนบุญนิยมสีมาอโศก เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๓-๒๕๕๔


เราสามารถปลูกพืชแซมระหว่างต้นกล้วยได้ ในภาพมีถั่วพลู ถั่วฝักยาว ฟักทอง มะเขือเทศ

          กล้วย เป็นพรรณไม้ล้มลุกในสกุล Musa มีหลายชนิด บางชนิดก็ออกหน่อแต่ว่าบางชนิดก็ไม่ออกหน่อ ใบแบนยาวใหญ่ ก้านใบตอนล่างเป็นกาบยาวหุ้มห่อซ้อนกันเป็นลำต้น ออกดอกที่ปลายลำต้นเป็น ปลี และมักยาวเป็นงวง มีลูกเป็นหวี ๆ รวมเรียกว่า เครือ พืชบางชนิดมีลำต้นคล้ายปาล์ม ออกใบเรียงกันเป็นแถวทำนองพัดคลี่ คล้ายใบกล้วย เช่น กล้วยพัด (Ravenala madagascariensis) ทว่าความจริงแล้วเป็นพืชในสกุลอื่น ที่มิใช่ทั้งปาล์มและกล้วย

         กล้วยเป็นพืชที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ใบตองใช้ห่ออาหารและทำงานฝีมือหลายชนิด ลำต้นใช้ทำเชือกกล้วย กระทง ส่วนต่างๆของกล้วยนำมาทำอาหารได้หลายส่วน ทั้งหัวปลี หยวกกล้วย ผลทั้งสุกและดิบ ตัวอย่างเช่น กล้วยแขก กล้วยบวชชี กล้วยปิ้ง กล้วยตาก กล้วยเชื่อม ข้าวเม่าทอด กล้วยทอด



การทำสวนกล้วยเพื่อการส่งเป็นสินค้าออก
ของประเทศ...คอสตาริกา ในภูมิภาคลาตินอเมริกา หรืออเมริกากลาง



































            



วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

การปรับโครงสร้างดิน(Soil Structure)หรือห่อหมกดิน


ภาพกองปุ๋ยหมัก แบบห่อหมกดินติดแอร์
ภาพปรับโครงสร้างดิน รหัส CSEA 
ประกอบด้วยสิ่งที่หาได้ง่าย ดังนี้

1. C=Carbon 80% คือ ซากสิ่งมีชีวิต ได้แก่ ใบไม้ เศษหญ้า

2. S=Soil 10%   คือ สิ่งไม่มีชีวิต ได้แก่ ดินร่วนซุย
3. E=Enzyme 10% คือ สิ่งมีชีวิต ใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ
                   ใช้เป็นฐานของห่วงโซ่อาหาร
4. A=Air Convection เป็นระบบถ่ายเทอากาศในกองปุ๋ยหมัก 


ถ้าสนใจรายละเอียดให้ดูคลิปวิดีโอนี้ครับ




     เป็นทฤษฎี(ทิฏฐิ ในภาษาบาลี) หรือความเห็น ดังนี้ : เป็นสมการด้านความสัมพันธ์กันอย่างพอดี ระหว่างการชะล้างพังทลาย(Erosion)กับการทับถม(Deposit, Greatation) ซึ่งเกิดขึ้นตลอดเวลาบนผิวโลกนี้ ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการชะล้างพังทลาย คือฝนตกหรือรดน้ำ ดังนั้นเราจึงต้องทับถมหน้าดินหรือใส่ปุ๋ยตลอดเวลาเช่นกัน สรุปคือพืชจะเจริญงอกงามได้ดีนั้น ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์อย่างลงตัวพอดี ระหว่างการรดน้ำและใส่ปุ๋ย ส่วนปุ๋ยแบบพอเพียงที่ไม่ต้องซื้อ คือ การหมักดินหรือปรับโครงสร้างดิน(Soil Structure)


สูตรการหมักดิน หรือปรับโครงสร้างดิน คือ E = D (c80+s10+e10)  ดังนี้ 

1.  c = carbon  คือ ธาตุคาร์บอนจากสิ่งที่มีชีวิตเป็นอินทรีย์วัตถุ(Organic)= ๘๐% ได้จาก ซากพืช ซากสัตว์ฯลฯ
2.  s = soil           คือ สิ่งที่ไม่มีชีวิต เป็นอนินทรีย์วัตถุ (NonOrganic) = ๑๐% ได้จาก ดินร่วนซุย หิน แร่ธาตุ
3. e = enzyme    คือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดกระบวนการย่อยสลาย(Fertilization)= ๑๐ % ได้จาก เชื้อจุลินทรีย์ชีวภาพ ที่เป็นประโยชน์ เช่น เชื้อรา ยีส
    
         ผมขอประกาศว่า "ทฤษฎีนี้ยิ่งใหญ่มาก มันเป็นความอยู่รอดของมวลมนุษยชาิติ เพราะอาหารเป็นหนึ่งในโลก และกระบวนการผลิตอาหารต้องยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ผู้ที่ใช้สารเคมี คือผู้ที่ทำลายความมั่นคงเรื่องอาหาร และเป็นเหตุแห่งโรคในมนุษย์ยุคนี้"

ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๔ (ครบรอบวันเกิด ๕๕ ปี)
ลงชื่อ กมล พรหมมาก ผู้ค้นพบทฤษฎี


          หลักการทางฟิสิกส์ หรือกายภาพ หรือกฎธรรมชาติของโลก
          โลกของเราประกอบด้วยของแข็ง ของเหลว และก๊าซหรืออากาศ
          จากองค์ประกอบวัตถุโลก ๓ สถานะนี้ เราควรคำนึงถึงและเชื่อมโยงต่อหลักการกสิกรรมของเราด้วย นั่นคือการจัดทำปุ๋ยแบบธรรมชาติิหรือไร้สารพิษ เราต้องดึงเอาทั้ง ๓ ส่วนนี้มาประกอบกันให้ลงตัวอย่างพอเหมาะพอดีกับพืชด้วย
           องค์ประกอบของพืชที่เป็นธาตุหลักสำคัญคือธาตุไนโตรเจน ประมาณ ๘๐%
           องค์ประกอบของมวลอากาศชั้นบรรยากาศโทรโปสเฟียร์ที่อยู่ติดกับผิวโลก ก็มีธาตุไนโตรเจนประมาณ ๘๐% เช่นกัน     
           ดังนั้นโจทย์ คือ ทำอย่างไรเราจะดึงหรือตรึงไนโตร จากอากาศลงสู่พื้นดินได้
           จากผลการทดลองพบว่า :   
           ๑.ใช้หลักการให้น้ำแบบมินิสปริงเกอร์ ก็จะสามารถตรึงไนโนเจนลงสู่ผิวดินได้              
           ๒.นำอินทรีย์วัตถุธาตุที่เป็นคาร์บอนมาเป็นตัวตรึงไนโตรเจนจากอากาศ ก็ได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน ได้แก่ จากผงถ่านไม้ แกลบดำ หรือจากใบไม้ กิ่งไม้ หญ้า
           อีกหลักการหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจ คือ พืชเมื่อสังเคราะห์แสงแล้วจะได้น้ำตาลและแป้ง เป็นอาหารสะสมไว้
           แป้งและน้ำตาลก็คือธาตุคาร์บอนนั่นเอง
           ดังนั้นเราควรมองบรรยากาศที่อยู่รอบๆตัวเรา ให้เห็นเป็นธาตุไนโตรเจน และมองเห็นหญ้า ใบไม้ กิ่งไม้ ให้เห็นเป็นธาตุคาร์บอน และให้นำธาตุทั้งสองส่วนนี้มาประกอบกันเป็นปุ๋ยให้กับพืช
          สรุป คือ เรามาช่วยกันเอาอากาศที่มีอยู่โดยธรรมชาติรอบๆตัวเรา นำมาทำปุ๋ยให้พืชกันเถอะ ซึ่งเป็นคำตอบสุดท้าย ที่เข้ากับหลักการเศรษฐกิจแบบพอเพียง
        เอาอากาศมาทำปุ๋ยให้กับพืชผักผลไม้กันเถอะ หลังจากปลูกถั่วต่างๆ ๑๐ วันผ่านไป ถั่วก็ตั้งพุ่มแล้ว อีก ๒๐ วันก็จะเกาะเลื้อยขึ้นไปตามลำไม้ไผ่และออกดอก ในภาพเป็นวิธีการหนึ่งของการนำเอาอากาศมาเป็นปุ๋ยให้กับพืช ท่านเชื่อหรือไม่ว่าในอากาศมีปุ๋ยสำหรับพืช ด้วยเหตุผลทางธรรมชาติพบว่าในบรรยากาศที่ติดผิวโลกหรือชั้นบรรยากาศโทรโปสเฟียร์ ส่วนประกอบสำคัญคือไนโตรเจนประมาณ๘๐% และพืชก็มีองค์ประกอบธาตุอาหารหลักที่เป็นไนโตรเจนประมาณ ๘๐% เช่นกัน 
       ดังนั้นเราจึงมีวิธีการดึงเอาปุ๋ยจากอากาศมาให้พืช ตามที่ได้ทดลอง คือ 
       ๑. ฉีดน้ำพ่นเป็นละออง จะได้อากาศธาตุ ได้แก่ อ๊อกซิเจนให้กับพืช และยังได้ธาตุไนโตรเจนอีกด้วย 
       ๒. ทำปุ๋ยหมักอินทรีย์วัตถุจะได้ธาตุคาร์บอน และธาตุคาร์บอนจะดึงธาตุไนโตรเจนในอากาศลงสู่พื้นดินได้ด้วย